3.engine

ประเภทของเครื่องยนต์

  เราสามารถแบ่งประเภทของเครื่องยนต์จากการเผาไหม้    ออกได้เป็น 2  ประเภทดังนี้
  • เครื่องยนต์สันดาปภายใน  (  Internal  combustion engine)    การเผาไหม้เกิดขึ้นในเครื่องยนต์  มีอยู่หลายแบบ   เช่น  เครื่องยนต์เบนซิน  เครื่องยนต์โรตารี่  และ เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์     แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
  • เครื่องยนต์สันดาปภายนอก  (external  combustion engine)  การเผาไหม้เกิดขึ้นนอกเครื่องยนต์   เช่น เครื่องจักรไอน้ำ   มีให้เห็นอยู่ในรถไฟรุ่นเก่า   และ เรือกลไฟ   เชื้อเพลิงได้จากถ่านหิน ไม้   น้ำมัน หรืออะไรก็ได้ที่เผาและได้พลังงาน ไปเปลี่ยนน้ำจากของเหลวไปเป็นไอน้ำความดันสูงผลักดันชิ้นส่วนของเครื่องจักรให้เคลื่อนไหว   การสันดาปภายนอกทำให้สูญเสียพลังงานความร้อนออกสู่ภายนอกโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์มาก  ดังนั้นประสิทธิภาพจึงต่ำกว่า เครื่องยนต์สันดาปภายในมาก  และเครื่องจักรไอน้ำมีขนาดใหญ่  เป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่า  เครื่องยนต์ในปัจจุบัน  จึงไม่ได้ใช้เครื่องจักรไอน้ำอีกเลย
Related image    
ภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ทั่วไป
     เครื่องจักรไอน้ำที่ใช้กับรถไฟ   รถยนต์เกือบทุกคันในปัจจุบัน  ล้วนแต่ใช้การสันดาปภายในทั้งสิ้น   และมีลักษณะเป็นแบบลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นและลง   เพราะ
  • ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายนอก
  • ราคาไม่แพง  เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์กังหันแก๊ส 
  • เติมเชื้อเพลิงได้ง่ายกว่า  เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า
  • การเผาไหม้คือหัวใจ
         เพื่อให้เราเข้าใจหลักการทำงานของเครื่องยนต์ลูกสูบ ว่าเกิดจากการสันดาปภายในได้อย่างไร   เรามาลองเปรียบเทียบการยิงปืนใหญ่สมัยโบราณ  เชื่อว่า  คุณคงเคยดูภาพยนต์   ก่อนที่ทหารจะยิงปืนใหญ่   พวกเขาจะต้องบรรจุดินปืน พร้อมกับกระทุ้งด้วยด้ามไม้เพื่อให้ดินปืนอัดตัวกันแน่น  แล้วจึงใส่กระสุนปืนใหญ่เข้าไป    เมื่อข้าศึกวิ่งเข้ามาอยู่ในวิถีกระสุน   ทหารจะใช้คบเพลิงจุดสายฉนวน  ไฟจากสายฉนวนวิ่งไปจุดดินระเบิดภายในกระบอก  พอระเบิดตูม   ลูกกระสุนวิ่งออกไป   นี่แหละครับต้นแบบของเครื่องยนต์สันดาปภายใน  โดยมีการเผาไหม้เกิดขึ้นอยู่ภายในกระบอกปืน
    เครื่องยนต์แบบลูกสูบ
         หลักการทำงานของปืนใหญ่ เป็นหลักการเดียวกันกับการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ลูกสูบ  ถ้าคุณเผาอะไรก็ได้อยู่ในห้องเล็กและแคบ   หรือจุดระเบิดขึ้น พลังงานความร้อนจะถูกส่งผ่านไปยังแก๊ส   และทำให้แก๊สขยายตัวอย่างรวดเร็ว   ผลักดันลูกปืนหรือลูกสูบให้วิ่งออกไป   ในปืนใหญ่  พลังงานจากการระเบิดถูกเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนที่ของลูกปืน   ส่วนในกระบอกสูบ   พลังงานจากการระเบิดของเชื้อเพลิงถูกเปลี่ยนเป็นการวิ่งของลูกสูบภายในกระบอกสูบ
         เครื่องยนต์แบบลูกสูบแบบหนึ่ง   ใช้ระบบการเผาไหม้แบบ  4  จังหวะ   เรียกว่า  เครื่องยนต์  4  จังหวะ  ( Four-stroke  combustion cycle)   หรือเรียกว่า วัฎจักรออตโต้   เพื่อให้เกียรติกับท่าน   Nikolas otto  ซึ่งค้นคิดประดิษฐ์เครื่องจักรนี้ขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.  1867  โดยแบ่งจังหวะออกเป็นดังนี้
    1. ดูด
    2. อัด
    3. ระเบิด
    4. คาย

อ้างอิง https://sites.google.com/site/khiawree/prapheth-khxng-kheruxngynt

Comments

Popular posts from this blog

โปรไฟล์